29 ตุลาคม 2556- เมื่อเวลา 15 นาฬิกา นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัทจันทร์ 25 จำกัด ซึ่งมีคุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์ เป็นเจ้าของ เดินทางมาที่ สำนักงาน กสทช. แจกแถลงการณ์ให้สืรอมวลชน มีเนื้อหา ระบุว่า
” บริษัท จันทร์ 25 จำกัด ขอเรียนชี้แจงเกี่ยวกับกรณีการเข้าร่วมประมูลทีวีดิจิทัล ประเภททั่วไปความคมชัดสูง (เอชดี) ดังต่อไปนี้ บริษัทมีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมประมูลและเตรียมความพร้อมเพื่อการเข้าร่วมประมูลมาตลอด เพราะตั้งแต่คุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์ ผู้บริหารของบริษัทไม่ได้รับการต่อสัญญาว่าจ้างเป็นกรรมการผู้จัดการของช่อง 7 และต้องออกจากการเป็นกรรมการบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุจำกัด พร้อมกับคุณไพโรจน์ เปรมปรีดิ์ เมื่อต้นปี 2555 ทั้งๆ ที่ถือหุ้นอยู่รวมกันประมาณ 21% เนื่องจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ไม่ประสงค์ให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารอีกต่อไป คุณสุรางค์ ยังคงดำเนินธุรกิจในวงการโทรทัศน์ตลอดมา นำบริษัท จันทร์ 25 จำกัด มาเป็นหลักในการจัดสร้างละคร และรายการ ซึ่งเป็นงานที่ผูกพันและถนัด โดยบริษัทได้เตรียมบุคคลากรและสถานที่ปรับเปลี่ยนโรงเรียนเรวดีเดิม เป็นสตูดิโอ และห้องบันทึกรายการ เตรียมความพร้อมของทีมงาน จัดหาเงินทุนเพื่อเข้าร่วมประมูลตามประกาศของ กสทช.
อย่างไรก็ดี กสทช.เพิ่งประกาศรายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกผู้เข้าร่วมประมูล เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2556 โดยกำหนดลักษณะของผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันไว้ ก่อให้เกิดปัญหาในประเด็นการมีผลประโยชน์ร่วมกัน เนื่องจากการถือหุ้นของคุณสรางค์ และคุณไพโรจน์ในบริษัท กรุงเทพและวิทยุ จำกัด ทั้งๆ ที่ปัจจุบัน บุคคลทั้งสอง ไม่มีสิทธิมีเสียงในการบริหารงาน ไม่มีตำแหน่งกรรมการ ไม่มีส่วนในการดำเนินการ และไม่มีทางที่จะได้คะแนนเสียงข้างมากเพียงพอที่จะกำหนดนโยบายการจ่ายเงินปันผลหรือกำหนดผลประโยชน์จากกิจการแต่อย่างใด เมื่อบริษัท แสดงเจตนาจะเข้าร่วมประมูลขอรับใบอนุญาต
บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุจำกัด ได้มอบหมายให้ทนายความมีหนังสือถึงบริษัท คุณแดง และคุณไพโรจน์ ให้ขายหุ้นในบริษัทกรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ออกไปให้เหลือน้อยกว่า 10% แต่เมื่อคุณสุรางค์ แสดงความจำนง ขอโอกาสให้ผู้สนใจ ซื้อหุ้นเข้าทำการตรวจสอบกิจการเพื่อกำหนดราคาซื้อขาย ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติในการทาธุรกิจ ในการซื้อขายหุ้นที่มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท ก็ได้รับการปฏิเสธ โดยอ้างว่า มีเจตนาไม่สุจริต ประสงค์ที่จะหาข้อมูลความลับไปให้สถานีโทรทัศน์คู่แข่ง
ต่อมา ได้มีการเสนอให้คุณสุรางค์ ปรับเปลี่่ยนอัตราส่วนจันทร์ 25 ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาการถือหุ้นแทนกัน อันขัดต่อกฎหมาย คุณสุรงค์จึงไม่อาจดำเนินการได้ และบริษัท จันทร์ 25 และคุณสุรางค์ ยังมีความประสงค์ที่จะเข้าร่วมประมูลขอรับใบอนุญาตและได้เตรียมเอกสารและเงินประกันไว้ครบถ้วนแล้ว แต่จากอุปสรรคของข้อกฎหมายดังกล่าว ประกอบกับการที่บริษัทกรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ได้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตเข้ามาแล้ว การที่กสทช.ยืนยันว่า จะตัดสิทธิบริษัททั้งสอง หากต่างก็ยื่นคำขอรับใบอนุญาตเข้ามาด้วยกันทั้งสองบริษัท
เมื่อพิจารณาโดยรอบด้าน ถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด และพนักงานที่มีความจงรักภักดี และร่วมกับคุณสุรางค์ คุณแม่ และพี่ชายทั้งสอง ก่อตั้ง และร่วมกันสร้างสถานีจนมาเป็นสถานีโทรทัศน์ ชั้นนำในปัจจุบัน บริษัท จันทร์ 25 จำกัด จึงตัดสินใจ ไม่เข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัท และคุณสุรางค์ ยังยืนยันว่า มีความประสงค์ที่จะทำธุรกิจในวงการโทรทัศน์ต่อไป รวมทั้ง จะใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นติดตามการดำเนินงาน และการปฏิบัติต่อพนักงานของบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด”